ได้โปรดให้ความสำคัญกับเรื่องของแรงจูงใจ

Puwadon Sricharoen
1 min readMar 4, 2020

--

แรงจูงใจจะมากขึ้นหากรู้ว่ามีคู่แข่งน้อย

เมื่อมีคู่แข่งน้อยคนเราจะรู้สึกว่าตัวเองมีโอกาสชนะและจะพยายามมากขึ้น แต่เมื่อพบว่ามีจำนวนคู่แข่งมากขึ้น เดาได้ยากว่าตัวเองอยู่จุดไหน อาจทำให้มีแรงจูงใจที่จะพยายามเป็นที่หนึ่งน้อยลง นักวิจัยทำการทดลองโดยแบ่งนักเรียนออกเป็นสองกลุ่ม โดยบอกกลุ่มแรกว่ามีผู้เข้าสอบร่วมกัน 10 คน และบอกกลุ่มที่สองว่ามีผู้เข้าร่วมสอบจำนวน 100 คน ขอให้ทุกคนทำข้อสอบให้เร็วที่สุดและถูกต้องที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจะให้รางวัลกับคนที่ทำคะแนนสูงสุด ผลปรากฏว่านักเรียนกลุ่มแรกทำข้อสอบเสร็จเร็วกว่า เพราะเขามีแรงจูงใจมากกว่าเมื่อรู้ว่ากำลังแข่งขันกับคนจำนวนน้อย แต่ในความเป็นจริงแล้วนักเรียนทั้งสองกลุ่ม (กลุ่มละคน) นั่งอยู่คนละห้องตามลำพัง

การแข่งขันสร้างแรงจูงใจได้จริง แต่ต้องไม่ยากจนเกินไป

เรื่องจะมีแรงจูงใจเมื่อได้ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง

ลองคิดดูว่าในแต่ละวันหรือสัปดาห์ คุณเข้าเว็บไซต์หรือใช้บริการที่คุณต้องบริการตัวเองเป็นจำนวนกี่ครั้ง เช่น ตู้เอทีเอ็ม เว็บไซต์ธนาคารออนไลน์ เว็บเทรดหุ้น อาจจะเคยได้ยินคนบ่นเวลาที่ต้องบริการตัวเอง “ทำไมถึงไม่มีพนักงานมาอำนวยความสะดวกเหมือนเมื่อก่อน” จริงๆแล้วเราชอบพึ่งพาตัวเองมากกว่า ชอบความรู้สึกที่ได้ทำอะไรด้วยตัวเองโดยพึ่งพาคนอื่นน้อยที่สุด ชอบทำสิ่งที่ต่างๆในแบบที่อยากทำ และทำเมื่อไหร่ก็ได้ ชอบที่จะได้ตัดสินใจทุกเรื่องอย่างอิสระโดยไม่ต้องขึ้นกับใคร

ถ้าอยากให้ผู้คนบริการตัวเองมากขึ้น คุณต้องทำให้เขารู้ว่ามีอำนาจควบคุมและรู้สึกว่าสามารถทำสิ่งต่างๆได้ด้วยตัวเอง

แรงจูงใจจะเพิ่มขึ้นเมื่อเรียนรู้ด้วยตัวเอง

ผู้คนสมัยก่อนทำงานแบบเป็นขั้นเป็นตอนและทำตามกระบวนการเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วง แต่ในปัจจุบันผู้คนกว่า 70% ในประเทศที่กำลังพัฒนา ทำงานโดยอาศัยการเรียนรู้ด้วยตัวเอง (ไม่มีขั้นตอนตายตัว) ทำให้บทลงโทษและการให้รางวัลแบบเดิมๆที่เคยใช้กันมาอาจจะใช้ไม่ได้ผลแล้ว การทำงานโดยอาศัยการเรียนรู้ด้วยตัวเองนั้นสามารถสร้างแรงจูงใจจากภายในตัวเราเอง โดยอาศัยความรู้สึกของการทำสิ่งนั้นสำเร็จ

แรงจูงใจที่เกิดจากความรู้สึกก้าวหน้า

ทำไมผู้คนถึงสละเวลาเข้าไปเขียนบทความในเว็บไซต์ต่างๆ สละเวลาเข้าไปช่วยพัฒนาโปรแกรมฟรี (OpenSource) มีหลายกิจกรรมที่เราทำ ซึ่งต้องใช้เวลาและอาศัยความชำนาญขั้นสูง และไม่ได้รับค่าตอบแทนหรือไม่ได้ส่งผลต่ออาชีพการงานเลย สาเหตุที่ผู้คนทำกิจกรรมเหล่านั้นก็เพราะชอบความรู้สึกว่ากำลังก้าวหน้า กำลังเรียนรู้ ได้ฝึกฝนความรู้ทักษะใหม่ๆนั่นเอง

ความเชี่ยวชาญเป็นตัวกระตุ้นที่สำคัญมาก แค่ได้เห็นความก้าวหน้าแม้เพียงเล็กน้อยก็สามารถกระตุ้นให้เราก้าวสู่ขั้นต่อไปได้แล้ว ตัวอย่างเช่น ในเว็บไซต์ LinkedIn ใช้ความก้าวหน้าเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้ใช้งานกรอกประวัติของตัวเองให้เสร็จ ด้วยการแสดงให้เห็นว่าเขาตอบคำถามไปแล้วกี่ข้อ

คุณสามารถกระตุ้นให้ตัวเองอยากทำงานมากขึ้นได้ ด้วยการยอมรับว่ามันน่าเบื่อ และหาวิธีการรทำงานแบบใหม่ ในแบบของคุณเอง

--

--

Puwadon Sricharoen

I’m an optimistic person. Love to travel to a new places and enjoy to spending my free time and vacation day to pursue my hobbies.