กลวิธีทางจิตวิทยาเพื่อให้ได้มาซึ่งความภักดีที่ไม่เสื่อมคลาย

ความภักดีแม้เพียงน้อยนิด มีค่าเทียบเท่ากับความรอบรู้มหาศาล — เอลเบิร์ต ฮับบาร์ต (1856–1915)

Puwadon Sricharoen
2 min readMay 25, 2019

เปลี่ยนคนนอกให้เป็นคนใน

คุณมีสิ่งที่ต้องทำอยู่สองอย่าง คือ บอกข้อมูลลับที่แทบจะไม่มีใครเคยรู้กับเขา เพื่อให้เขารู้สึกมีอภิสิทธิ์และเป็นคนพิเศษ อย่างที่สอง มอบอำนาจหรือหน้าที่บางอย่างที่มีความสำคัญให้เขาได้รับผิดชอบ

https://www.pexels.com/photo/man-standing-beside-man-holding-gray-club-1325735/

ตัวอย่างเช่น ผู้จัดการฝ่ายขายมีพนักงานคนหนึ่งที่ยังไม่แน่ใจในความภักดี ระหว่างการพูดคุยเป็นการส่วนตัวในบรรยากาศสบายๆ ผู้จัดการอาจพูดบางอย่างในทำนองที่ว่า “โทนี่ ผมอยากให้คุณรู้ว่าบริษัทของเรากำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เรากำลังจะได้บริษัท A มาเป็นลูกค้ารายใหญ่ แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้ประกาศออกมาเป็นทางการ ผมอยากให้คุณเก็บเป็นความลับด้วย” ตอนนี้โทนี่เริ่มรู้สึกเป็นคนพิเศษแล้ว หลังจากนั้นผู้จัดการจึงพูดต่อว่า “และผมคิดว่าคุณน่าจะเป็นเรี่ยวแรงสำคัญของทีม ที่จะช่วยหาวิธีที่ดีที่สุดในการให้บริการกับลูกค้ารายนี้” ถึงตอนนี้โทนี่รู้สึกเป็นคนสำคัญอย่างเต็มตัว โดยมีอำนาจเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ส่วนคุณเองก็เพิ่งสร้างลูกทีมที่มีไฟแรงและแข็งขันที่สุดคนหนึ่งขึ้นมา

เป็นส่วนหนึ่งของความยิ่งใหญ่

ถ้าคุณเป็นคนดูกีฬา มีการแสดงตัวของผู้ชมในลักษณะที่น่าสนใจมาก เมื่อทีมที่เขาเชียร์ชนะ พวกเขาจะพูดว่า “เราชนะแล้ว” แต่ถ้าทีมแพ้ พวกเขาจะพูดว่า “พวกเขาแพ้แล้ว!” ที่จริงแล้วทุกคนล้วนอยากเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ อยากอยู่ใกล้คนที่ประสบความสำเร็จ ถ้าคุณต้องการความภักดีจากใครสักคน คุณก็ต้องให้พวกเขามองเห็นความสำเร็จและเป็นส่วนหนึ่งกับความสำเร็จของคุณด้วย

https://www.pexels.com/photo/photo-of-man-changing-tire-of-a-motorcycle-1131221/

ถ้าช่างซ่อมรถคนหนึ่งบอกให้คุณรู้ว่าสิ่งที่คุณกำลังจะทำนั้นเป็นการเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งคุณเองก็ไม่เคยรู้มาก่อน แทนที่เขาจะทำตามความต้องการของคุณและก็รับเงินตามปกติ คุณจะมีความรู้สึกดีกับเขาและบริการของเขามากขึ้นแค่ไหน คนที่มีหลักการจะมีความสามารถพิเศษในการทำให้ผู้คนภักดีกับเขาอย่างไม่เสื่อมคลาย

ในทางกลับกัน วิธีที่จะทำให้ใครบางคนหมดความภักดีกับคุณได้เร็วที่สุด คือการทำให้เขาเห็นว่าคุณไม่ซื่อสัตย์และไว้ใจไม่ได้ บางครั้งคำพูดของคุณอาจจะฟังไม่เข้าหู แต่ถ้าออกมาจากความจริงใจ คำพูดนั้นจะพิสูจน์ให้เห็นเองว่าคุณเป็นคนไว้ใจได้ สุดท้ายแล้วผู้คนก็เลือกที่จะอยู่กับคนที่มีหลักการ มากกว่าคนที่พยายามจะพูดแต่ในสิ่งที่อีกฝ่ายอยากได้ยินหรือคนที่พยายามปิดบังอะไรบางอย่าง

สร้างความภักดีไว้เป็นทุนสำรอง

ถ้าคุณต้องการให้ใครสักคนภักดีต่อคุณ คุณเองก็ต้องภักดีกับเขาเช่นกัน บางครั้งคุณก็ต้องคอยสนับสนุนเมื่อเขาต้องการความช่วยเหลือ บางครั้งคุณก็แค่ต้องอดทนและพร้อมที่จะเข้าใจเมื่อพวกทำผิดพลาดไปโดยไม่ได้เจตนา (หรือเจตนาก็ตาม) หลังจากนั้นทุกอย่างจะเป็นไปตามกฏแห่งการตอบแทนซึ่งกันและกัน อีกฝ่ายกำลังรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณ เมื่อไหร่ที่มีใครสักคนยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือเรา เราจะอึดอัดใจเพราะมันทำให้เรารู้สึกเหมือนต้องพึ่งพาคนอื่น

https://www.pexels.com/photo/grayscale-photo-of-person-pulling-up-woman-using-rope-1457684/

โดยธรรมชาติแล้วมนุษย์ต้องการความอิสระ ดังนั้น เมื่อเราทำอะไรให้ใครก็ตาม นั่นคือการแสดงความภักดีของเรา คนคนนั้นจะพยายามตอบแทนเพื่อบรรเทาความรู้สึกติดหนี้บุญที่ค้างอยู่ในใจ

พลังของการแสดงความซาบซึ้งใจ

สมมุติว่าคุณซื้อรถจักรยานคันใหม่เอี่ยมให้ลูกทั้งสองคนคนละคัน คนแรกพูดขอบคุณอย่างตื้นตันไม่หยุดปาก ส่วนลูกอีกคนแอบบ่นในลำคอ และถามหากระดิ่งกับตะกร้าในอีกสิบนาทีต่อมา คุณคิดว่าครั้งต่อไปคุณจะอยากซื้อของให้ลูกคนไหนมากกว่ากัน ?

https://www.pexels.com/photo/person-riding-bicycle-wearing-backpack-1374543/

การแสดงความซาบซึ้งใจในความกรุณาของอีกฝ่ายจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ แล้วจะพบว่าผู้คนเต็มใจหรือแม้กระทั้งกระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือคุณครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะคุณทำให้เขารู้สึกดีกับตัวเอง และคุณยังแสดงให้เห็นว่าคุณมีค่าพอสำหรับการสนับสนุนหรือช่วยเหลือจากเขา

--

--

Puwadon Sricharoen
Puwadon Sricharoen

Written by Puwadon Sricharoen

I’m an optimistic person. Love to travel to a new places and enjoy to spending my free time and vacation day to pursue my hobbies.

No responses yet