ทัศนคติที่ช่วยให้ทำงานกับผู้คนได้อย่างมีความสุขมากขึ้น

อาจจะมีข้อใดข้อหนึ่งที่คุณสามารถเอาไปใช้ได้ในชีวิตจริง

Puwadon Sricharoen
2 min readJan 25, 2020

นักวิทยาศาตร์ค้นพบว่ามนุษย์มีความสามารถในการเรียนรู้ได้ตลอดชีวิตและมีพัฒนาการทางสมองมากว่าที่เราคิด ประสบการณ์ การฝึกฝนและความพยายามของแต่ละคนเป็นปัจจัยที่ทำให้พวกเขาแตกต่างกัน มนุษย์จึงมีโดดเด่นที่ความแตกต่างกัน

ทำสิ่งจำเป็น ในเวลาจำเป็น เท่าที่จำเป็น

การจัดลำดับความสำคัญของงานที่ต้องทำเป็นความสามารถที่สวรรค์ให้มากับมนุษย์ทุกคน (ช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าทุกคนทำได้) การแบ่งงานชิ้นใหญ่ออกเป็นชิ้นเล็กก็ยากแล้ว แต่การจัดลำดับความสำคัญเป็นเรื่องที่ยากกว่า ต้องใช้ประสบการณ์ ทุกคนมีเวลาเท่ากัน เกิดมาแล้วต้องตาย เวลามีค่า บางคนใช้เวลาเดินทั่วห้างสองชั่วโมงเพื่อหาเสื้อที่ราคาถูกลง 200 บาท หาให้ได้ว่าสิ่งไหนมีความจำเป็นในตอนนี้ ขณะนี้ สิ่งไหนให้คุณค่ากับตัวคุณเองและทีม อาจเริ่มด้วยการตั้งคำถามว่า “วันนี้ คุณทำสิ่งที่จำเป็นอยู่หรือไม่ ?”

อย่าทำเผื่อ

เชื่อว่าทุกคนมีความคาดหวังกับผลงานที่ตัวเองลงมือทำว่าจะต้องออกมาสมบูรณ์ที่สุด ทำให้เขาพยายามใส่ความสามารถเข้าไปจนเกินความต้องการ หลายครั้งที่ความสามารถนั้นถูกตัดสินโดยใช้ความรู้สึกว่าต้องมี ไม่ได้ใช้ข้อมูลทางสถิติหรือความต้องการของผู้ใช้งานจริงในการตัดสินใจ เราไม่มีทางรู้เลยว่าสิ่งที่ทำเผื่อไปจะรองรับกับอนาคตหรือไม่ ถ้าเกินกว่าสิ่งที่เรารู้ว่าอนาคตจะเกิดขึ้นก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเสียเวลา สิ่งที่ควรทำมากกว่า คือเตรียมพร้อมสำหรับการปรับเปลี่ยนให้ดีที่สุด ออกแบบงานให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ง่ายและรวดเร็ว นั่นคือสิ่งที่จำเป็นที่สุด

อย่าให้ต้องเดา

ว่ากันว่าถ้าให้มนุษย์ต้องเดาอะไรส่วนมากจะผิด! ในแอปพลิเคชันไม่ว่าเล็กหรือใหญ่จะมีทางเลือกผู้ใช้ต้องเลือกอยู่เสมอ จงระวังอย่าให้ผู้ใช้ตัดสินใจเลือกด้วยการเดา ให้ความสำคัญกับสิ่งที่ผู้ใช้ต้องรับรู้ก่อนตัดสินใจ ข้อความสื่อความได้ถูกต้องแล้วหรือไม่ สีช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้นแล้วหรือไม่ เสียงช่วยเพิ่มความสนใจจริงหรือไม่ อย่าพยายามบอกตัวเองว่าผู้ใช้จะเข้าใจ (เราทำอยู่ทุกวันก็ต้องเข้าใจที่สุดอยู่แล้ว) เพราะเมื่อผู้ใช้ไม่ได้สิ่งที่ต้องการเขาจะถอดใจและไม่กลับมาใช้อีก

เสร็จไม่เท่ากับสมบูรณ์

สมมุติว่าคุณอยากเปิดร้านอาหาร คุณคงจะมีภาพร้านอาหารในฝันอยู่ในความคิดอยู่แล้ว ทั้งบรรยากา แสงสี อาหารอร่อย พนักงานยิ้มแย้ม สมมุติว่าทำได้ทั้งหมดนี้จะเรียกว่า “สมบูรณ์แบบ” ถ้าคุณเริ่มเปิดร้านและพยายามทำให้เหมือนฝันที่ตั้งใจไว้ คุณอาจต้องใช้เงินและเวลามากกว่าหลายเท่าตัว ทั้งๆที่แค่มีครัว โต๊ะ เครื่องปรับอากาศ ป้ายหน้าร้าน ก็สามารถเปิดร้านอาหารได้แล้ว สิ่งนี้เหล่าเรียกว่า “เสร็จ”

แก้ที่ผิดส่วนที่พลาดปล่อยไป ความหมายของคำว่าผิด คือ ไม่รู้ว่าที่ถูกต้องคืออะไร ต่างจากพลาดคือรู้ว่าที่ถูกคืออะไรแต่ยังทำไม่ได้ในครั้งนั้น ขอแนะนำว่าถ้าพลาดให้ปล่อยไปเพราะครั้งหน้าจะถูกเอง อย่าไปเสียเวลากับที่สิ่งที่เราพลาดไปแล้ว แต่ถ้าผิดเราต้องแก้ไขเพราะครั้งหน้าจะได้ไม่ผิดอีก ต้องแยกให้ออกว่าถ้าสิ่งที่พลาดไปในครั้งนั้นทำมีผลกระทบให้ต้องแก้ไข สิ่งนั้นคือผิดไม่ใช่พลาด พยายามอย่าเสียเวลาไปกับการทำให้สมบูรณ์เพราะในบางกรณีอาจเกิดขึ้น 1 ใน 1,000 ครั้ง เวลาที่ทำงานให้ถามตัวเองหรือทีมว่าต้องการอะไร เสร็จหรือสมบูรณ์ เสร็จคือได้อะไร

โรคมนุษย์สมบูรณ์แบบ (Perfectionism) จะมีอาการไม่รู้สึกยืดหยุ่นกับสิ่งใด อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยม ชีวิตเต็มไปด้วยไม้บรรทัด มีความพยายามที่จะบงการทั้งชีวิตตัวเองและคนรอบข้าง จำเป็นต้องพบจิตแพทย์

ประนีประนอมคือความเสี่ยง

ในวันหยุดที่แสนน่าเบื่อ คุณมีเงินอยู่ 100 บาท คุณเองอยากได้หุ่นยนต์ (ราคา 99 บาท) แต่น้องสาวอยากได้ตุ๊กตา (ราคา 79 บาท) ถ้าแบ่งเงินกันคนละ 50 บาท ทั้งคู่ก็ไม่ได้ของที่ต้องการ ถ้าคนใดคนหนึ่งเสียสละก็จะมีหนึ่งคนที่ไม่ได้สิ่งที่ต้องการ ลองเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ หรือที่จริงแล้วพี่น้องคู่นี้กำลังเบื่อและอยากได้กิจกรรมทำในวันหยุดเพื่อแก้เบื่อ อาจจะเอาเงิน 100 บาท ไปซื้อหมากฮอสกับขนมมานั่งเล่นด้วยกันก็ได้ (Flexible)

คุณกำลังพัฒนาแอปพลิเคชันแชท สมมุติว่าลูกค้าของคุณอยากให้สามารถส่งรูปภาพผ่านแชทได้ แต่คุณมีเหตุบางอย่างที่จะไม่ทำสิ่งนี้ พยายามต่อรองจนลูกค้ายอมและไม่ทำ ถึงตอนจบลูกค้าได้ระบบแชทที่ไม่สามารถส่งภาพได้ กลายเป็นระบบคนไม่อยากใช้ คนพัฒนาก็รู้สึกแย่ ระบบที่ใช้งานไม่ได้จริง ลูกค้าก็รู้สึกแย่ สุดท้ายไม่มีใครได้สิ่งที่ต้องการ

การประนีประนอม (Compromise) มีความเสี่ยงที่ทั้งสองฝ่ายอาจจะไม่ได้สิ่งที่ต้องการเลยทั้งคู่

ข้อยกเว้นจะทำลายกฏ

ลูกสาวอยากกลับบ้านดึก ก็ต้องทำลายกฏของบ้านก่อน ทุกวันนี้เธอกลับถึงบ้านไม่เกินสามทุ่ม ถ้าอยากกลับบ้านสี่ทุ่มโดยไม่โดนบ่น เธอก็เริ่มจากการกลับบ้านช้าขึ้นครั้งละ 10 นาทีและเตรียมเหตุผลประกอบ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เชื่อได้ว่าอีกไม่นานเธอจะได้กลับบ้านสี่ทุ่มเป็นปกติอย่างแน่นอน

อันที่จริงแล้วเราสามารถทำลายกฎอะไรก็ได้ ถ้ามีข้อยกเว้น เมื่อคุณเป็นผู้คุมผู้กฏ รักษาความลับที่มีความสำคัญ การยอมให้มีข้อยกเว้นเพียงข้อเดียวเพื่อแลกกับอะไรบางอย่าง เท่ากับคุณได้เปิดโอกาสให้กฏนั้นถูกทำลายเรียบร้อยแล้ว ลองชั่งน้ำหนักความรับผิดชอบที่คุณต้องแบกรับเมื่อกฏนั้นถูกทำลาย (ผลกระทบ) แลกกับข้อยกเว้นที่ยอมให้เกิดขึ้นว่าสิ่งใดคุ้มค่ากว่ากัน และในทางกลับกันกฏที่ไม่ Make sense ก็สมควรถูกทำลายเช่นกัน ด้วยวิธีสร้างข้อยกเว้นให้ได้ หลังจากนั้นก็เพียงรอเวลาให้กฏนั้นถูกทำลายไปเอง

ช่วยได้แต่อย่าทำแทน

เกิดเหตุบ่อยที่สุดในมหาวิทยาลัย ในวิชาเขียนโปรแกรม ที่นักศึกษาต้องหาคำตอบโดยเขียนโปรแกรมขึ้นมา แต่มีเพื่อนบางคนที่เขียนไม่ได้ และคุณอาสาเข้าไปให้ความช่วยเหลือด้วยการช่วยพิมพ์โค้ดให้ จากเหตุการณ์นี้มีโอกาสสูงมากที่เขาจะไม่เข้าใจโปรแกรมนั้นอีกเลย คำว่า “ช่วย” อาจจะเป็นไปได้ถึงเฉลยวิธีคิดและคำตอบ แต่ถ้าเขาได้ลงมือทำด้วยตัวเองมีผลดีมากกว่าในการทำความเข้าใจ เพิ่มโอกาสที่เขาจะเข้าใจการทำงานของโปรแกรมนั้นจริงๆ (เพิ่มโอกาสก็คุ้มแล้ว)

หากคุณจะให้ความช่วยเหลือใครก็ตาม สิ่งที่ควรยึดถือเอาไว้คือ “อย่าทำแทน อย่าทำให้” เพราะนั่นไม่เป็นผลดีในระยะยาว การให้ความช่วยอย่างจริงใจ นั่งประกบข้างๆจนกว่าเขาจะแก้ปัญหานั้นได้ อาจจะใช้เวลาอยู่บ้างแต่ดูจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง

การได้มีโอกาสได้พบกับคนที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกับตัวเรา (จุดร่วม) และพร้อมที่จะลงมือทำให้ฝันเกิดขึ้นจริงถือเป็นของขวัญชิ้นพิเศษ ว่ากันว่าในนาทีเดียวกันนี้มีหลายพันคนทั่วโลกที่มีความคิดตรงกับเรา แต่มีโอกาสน้อยมากที่จะได้เจอกันและยิ่งน้อยลงไปอีกที่จะได้เริ่มลงมือทำด้วยกัน เป็นไปไม่ได้ที่ผู้คนจะมีนิสัยเหมือนกันหรือมีความชอบเหมือนกัน อันที่จริงแล้วเมื่อยิ่งรู้จักกันมากขึ้นเท่าไหร่ ความแตกต่างจะยิ่งชัดเจนขึ้น อย่าให้ความแตกต่างมาเป็นอุปสรรคในการทำงาน (สงวนจุดต่าง) อาจเป็นเรื่องยากสำหรับบางคน การเปิดใจยอมรับในความแตกต่างเป็นสิ่งที่ต้องใช้สถานการณ์แบบนี้ การวิจารณ์ความชอบของผู้อื่นดูเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ความแตกต่างที่พบเจอได้ง่ายในยุคสมัยนี้ตัวอย่างเช่น คนชอบดื่มกับไม่ดื่ม สนใจการเมืองไม่สนใจการเมือง เป็นต้น

Know Who สำคัญกว่า Know How

จากประสบการณ์ที่เคยทำงานในโรงพยาบาล ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการทำงานในโรงพยาบาลเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับโปรแกรมเมอร์ ระบบส่วนใหญ่จะเป็นการบันทึก แก้ไข เรียกดูรายงาน ซึ่งถือเป็นปกติสำหรับคนเขียนโปรแกรมอยู่แล้ว แต่ความยากที่แท้จริงอยู่ที่ความซับซ้อน จำนวนของผลลัพธ์และคำศัพท์ทางการแพทย์ที่คุณแทบจะเดาไม่ออกเลยว่า ศัพท์คำนี้คือหมายถึงอะไร น่าจะทำให้เห็นความสำคัญของความจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถตอบคำถามได้ทันที ลดโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดที่ไม่ควรเกินขึ้นในระบบทางแพทย์ ช่วยให้ทำงานราบรื่นมีโอกาสสำเร็จมากขึ้น

เงียบเท่ากับใช่!

วิธีการเงียบ นิ่งเฉย ไม่ตอบสนอง อาจถูกเข้าใจว่ารับรู้หรือตกลง ตัวอย่างเช่น ลูกค้าส่งอีเมลมาขอเพิ่มความสามารถบางอย่างในแอปพลิเคชันที่คุณกำลังพัฒนา หากคุณเงียบและไม่ตอบอีเมล (ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่) ลูกค้าจะเข้าใจและคาดหวังว่าจะเห็นสิ่งนั่นในวันส่งงานอย่างแน่นอน เพื่อนร่วมงานของคุณขอความคิดเห็นเรื่องโครงสร้างของแอปพลิเคชันผ่านการประชุมทีม หากคุณนิ่งเฉย ทีมจะเข้าใจว่าคุณรับรู้และยอมรับในข้อตกลงนั้นโดยปริยาย คุณอาจแก้ไขได้ความผิดพลาดได้ยากลำบากขึ้น หรือในอีกกรณีวิธีการเงียบสามารถตีความถึงคำตอบล่าสุดหรือคำตอบที่ใช้บ่อยๆ ตัวอย่างเช่น ขอยืมใช้คอมพิวเตอร์ ถ้าครั้งก่อนเขาให้ยืม ครั้งนี้ก็อาจจะตีความว่าได้เช่นกัน การขอไปนอนค้างที่บ้าน ถ้าครั้งก่อนเขาปฏิเสธ ในครั้งนี้ก็ตีความได้ว่าปฏิเสธได้เช่นกัน ไม่น่าว่าจะเป็นในกรณีไหน การเงียบหรือนิ่งเฉยต่อการตอบคำถาม มีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้การสื่อสารครั้งนั้นผิดพลาดไป จงให้ความสำคัญกับการตอบสนองต่อคำถามอยู่เสมอ

ขอเพียงหนึ่งข้อ

คำแนะนำทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว หากคุณเองมีความคิดเห็นที่แตกต่างไปจากนี้ถือเป็นข้อดี ผมหวังเพียงแต่ว่าอาจจะมีข้อใดข้อหนึ่งที่คุณสามารถเอาไปปรับใช้ได้ในชีวิตจริง นั่นก็ถือเป็นความสำเร็จของบทความนี้แล้ว ❤️

--

--

Puwadon Sricharoen

I’m an optimistic person. Love to travel to a new places and enjoy to spending my free time and vacation day to pursue my hobbies.